การเสริมหน้าอกผ่านทางบริเวณใต้รักแร้เป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะสามารถปกปิดรอยแผลให้ดูเนียนไปกับร่างกายอย่างเป็นธรรมชาตินั้นเอง ดังนั้นเราจึงรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นที่สาวๆควรทราบเกี่ยวกับการเสริมหน้าอกให้อ่านกันค่ะ
การเสริมหน้าอกบริเวณใต้รักแร้
โดยทั่วไปแผลจะมีขนาด 2-3 ซ.ม. ด้านในรักแร้ บริเวณกึ่งกลางตำแหน่งของแผล มักเลือกบริเวณที่มีรอยลึกที่สุดของรักแร้ เพื่อช่วยให้รอยแผลเป็นที่เกิดในร่องดูเนียนไปกับรักแร้ ช่วยให้บริเวณหน้าอกไม่มีแผลเป็น เป็นตำแหน่งที่คนทั่วไปไม่ค่อยให้ความสนใจ ซึ่งจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของศัลยแพทย์
ขั้นตอนการเสริมหน้าอกบริเวณใต้รักแร้
- ศัลยแพทย์เลือกเปิดแผลบริเวณใต้รักแร้ในจุดที่ลึกที่สุด
- ทำการเลาะโพรงให้พอดีกับขนาดซิลิโคนที่จะใส่เข้าไป
- หลังจากโพรงช่องว่างมีขนาดที่เหมาะสมแล้วแพทย์จึงใส่ซิลิโคนเข้าไปยังตำแหน่งที่มาร์คไว้
- ปิดแผล
ข้อดีของการเสริมหน้าอกบริเวณใต้รักแร้
- สามารถซ่อนแผลให้เนียนไปกับบริเวณใต้รักแร้ได้
- ช่วยให้บริเวณหน้าอกไม่มีแผลเป็น
- สามารถใส่ได้หลายตำแหน่ง เหนือกล้ามเนื้อ ใต้กล้ามเนื้อบางส่วน และใต้กล้ามเนื้อทั้งหมด
- การเสริมวิธีนี้เป็นตำแหน่งที่ดีสุดเพราะสามารถยกกล้ามเนื้อขึ้นได้ทั้งหมด
ข้อเสียของการเสิรมหน้าอกบริเวณใต้รักแร้
- หากต้องการแก้ไขทำได้ค่อนข้างยาก อาจจำเป็นต้องเปิดแผลในบริเวณอื่นๆร่วมด้วย เช่น หัวนมหรือใต้ราวนม เนื่องจากแผลบริเวณใต้รักแร้ไม่สามารถมองเห็นตำแหน่งที่ซิลิโคนอยู่ได้ชัดเจน
- แผลผ่าตัดอยู่ไกลจากตำแหน่งของเต้านม การเลาะเปิดโพรงเพื่อใส่ซิลิโคนจึงอาจไม่ดีหรือไม่กว้างพอ โดยเฉพาะการเสริมเหนือกล้ามเนื้อ
- แผลผ่าตัดที่บริเวณใต้รักแร้จะเจ็บมากกว่าแผลที่หัวนมหรือฐานหน้าอก เพราะมีการเปิดช่องว่างในซิลิโคนที่ยาวกว่า
- เจ็บกว่าการผ่าตัดด้วยวิธีอื่นๆ
- ใช้ระยะเวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน
นี่คือข้อมูลการเสริมหน้าอกบริเวณใต้รักแร้เบื้องต้นที่สาวๆควรรู้ไว้ เพราะหากตัดสินใจทำหน้าอกไปแล้ว จะไม่สามารถย้อนกลับไปวันที่ศัลยแพทย์ยังไม่ลงมีดได้อีก นอกจากนี้หากแยกไม่ออกว่าซิลิโคนแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร ก็ควรเลือกซิลิโคนที่ผ่าน อย.และได้รับมาตรฐานเท่านั้นค่ะ