สำหรับคนที่รักสวยรักงามแต่มีรูปหน้าบาน กรามใหญ่ คงอยากมีใบหน้าเรียวสวยแบบสาวเกาหลี ยิ่งถ้ามีคนมาทักยิ่งทำให้ความมั่นใจในการใช้ชีวิตลดลงอีก แต่ไม่ต้องกังวลเพราะปัจจุบันการศัลยกรรมสามารถแก้ไขจุดต่างๆได้ตามนึกฝันแล้ว ดังนั้น การผ่าตัดเพื่อลดขนาดกรามจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของคุณ
สาเหตุที่รูปหน้าหรือกามใหญ่
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจสาเหตุที่รูปหน้าหรือกรามใหญ่ เกิดจากอะไรได้บ้าง
- ลักษณะทางพันธุกรรม ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คุณมีกรามที่มีขนาดใหญ่หรือใบหน้าเรียวเล็ก ลักษณะเหล่านี้จะได้รับถ่ายทอดจากพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายมา ซึ่งจะปรากฏบนรูปหน้าอยู่แล้ว
- การเจริญเติบโตของกระดูก สำหรับบางคนที่มีการเจริญเติบโตของกระดูกในร่างกายที่ดีหรือมากเป็นพิเศษ อาจทำให้กระดูกในส่วนกรามมีขนาดใหญ่ด้วย
- มีกล้ามเนื้อหรือไขมันที่กราม บางคนอาจมีกล้ามเนื้อหรือไขมันบริเวณส่วนกรามอยู่มาก โดยกล้ามเนื้อที่กรามนั้นอาจเกิดจากการใช้งานกรามอย่างหนัก เช่น การเคี้ยวอาหารที่เคี้ยวยากบ่อยๆ ร่างกายจึงสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งานอย่างหนัก ส่วนไขมันนั้นเกิดจากการรับประทานอาหารมากเกินไป อาหารส่วนเกินจึงแปรสภาพเป็นไขมันและนำไปเก็บไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งบริเวณกรามด้วยซึ่งเมื่อรวมกับกรามที่มีขนาดใหญ่ด้วยแล้วจะยิ่งทำให้รูปหน้าใหญ่ไปด้วย
- อาการอื่นๆ เช่น มีอาการบวมน้ำที่เกิดจากการรับประทานอาหาร ทำให้หน้าบวมขึ้น แลดูกรามใหญ่กว่าเดิม
การผ่าตัดลดขนาดกรามมีทั้งหมด 2 วิธีได้แก่
- การผ่าตัดจากภายนอกช่องปาก คือ การผ่าตัดเปิดแผลจากภายนอกบริเวณใกล้ ๆ กับมุมกราม โดยแพทย์จะทำการผ่าเปิดกระดูกมุมกราม ใช้เลื่อยตัดกระดูกตามแนวที่ต้องการแล้วเอาชิ้นกระดูกที่เกินออกไป ตกแต่งมุมกระดูกให้เรียบร้อย จากนั้นจึงเย็บปิดแผล ซึ่งวิธีนี้อาจทำให้เกิดแผลเป็นที่เห็นชัดได้
- การผ่าตัดจากภายในช่องปาก คือ การผ่าตัดเปิดแผลในช่องปากตรงบริเวณหลังฟันกรามซี่สุดท้าย และตัดกระดูกมุมกรามออกตามแนวที่ต้องการ พร้อมกับการตกแต่งกระดูกส่วนที่เหลือให้เรียบร้อย แล้วจึงเย็บปิดแผล วิธีนี้จะค่อนข้างยุ่งยากกว่าวิธีแรก แต่ก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เพราะไม่มีแผลเป็นให้เห็น
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
- ก่อนผ่าตัดจะต้องพบแพทย์เพื่อตรวจดูโครงสร้างของกระดูกอย่างละเอียด เช่น ความหนา, ความสูง, ความสมดุลของกระดูกกรามทั้งสองข้าง เพื่อแพทย์จะได้ประเมินว่า ควรตัดแต่งลดเหลี่ยมมุมของกระดูกมากน้อยแค่ไหนจึงจะเหมาะสมรับกับใบหน้า จะตัดแต่งอย่างไรไม่ให้ไปกระทบต่อรากฟันและความแข็งแรงของกระดูกกราม หลังตัดกรามไปแล้วกระดูกกรามจะยังคงมีความแข็งแรงเหมือนเดิม เพราะแพทย์จะผ่าตัดกระดูกกรามออกไปเพียงบางส่วนเท่านั้น
- ก่อนผ่าตัดแพทย์จะทำการตรวจสภาพร่างกายอย่างละเอียด แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว การแพ้ยา ยาที่รับประทานเป็นประจำ เป็นต้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ และเตรียมสภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีไข้ หรืออาการอักเสบใดๆ โดยเฉพาะช่องปาก และระบบทางเดินหายใจ
- งดวิตามินที่มีส่วนผสมของน้ำมันประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- งดอาหารและน้ำ 6-8 ชม.ก่อนการผ่าตัด เนื่องจากการผ่าตัดจะต้องทำโดยการดมยาสลบ
การผ่าตัด
การผ่าตัดส่วนใหญ่มักทำการผ่าตัดภายในปาก โดยแพทย์จะผ่าตัดกระดูกขากรรไกรแล้วจัดตำแหน่งให้ถูกต้อง เมื่อจัดตำแหน่งดีแล้ว แพทย์จึงยึดกระดูกให้อยู่ที่ตำแหน่งใหม่ด้วยน็อตและแผ่นดามกระดูก
- การตัดกรามส่วนบน เป็นการแก้ไขขากรรไกรส่วนบนที่ถอยร่นไปด้านหลัง การสบฟันแบบไขว้ ปัญหาการยิ้มแล้วเห็นฟันมากเกินหรือน้อยเกินไป รวมถึงปัญหาฟันสบเปิดที่มีช่องว่างระหว่างฟันหน้าเมื่อกัดฟัน โดยศัลยแพทย์จะตัดกระดูกบริเวณเหนือฟัน เพื่อให้ขากรรไกรส่วนบนทั้งหมด รวมถึงเพดานปากและฟันบนเคลื่อนมารวมกัน และย้ายตำแหน่งขากรรไกรและฟันบนจนกว่าจะพอดีกับฟันล่าง เมื่อจัดตำแหน่งเรียบร้อยแล้วจึงยึดด้วยแผ่นดามกระดูกและน็อต
- การตัดกรามส่วนล่าง ขากรรไกรส่วนล่างที่ร่นเข้าไปสามารถปรับแก้ด้วยการเจาะกระดูกขากรรไกรล่าง โดยศัลยแพทย์จะผ่าตัดที่บริเวณหลังฟันกรามและตามแนวยาวของกระดูกขากรรไกร เพื่อให้ขากรรไกรส่วนหน้าเคลื่อนมารวมตัวกัน เมื่อขากรรไกรเคลื่อนตัวไปสู่ตำแหน่งใหม่ดีแล้วจึงยึดด้วยน็อตไว้จนแผลหายดี
- การศัลยกรรมคาง คนไข้ในรายที่มีกรามล่างถอยร่นเข้าไปรุนแรงมักทำให้มีคางเล็กไปโดยปริยาย การแก้ไขสามารถใช้การศัลยกรรมคาง โดยศัลยแพทย์ทำการตัดกระดูกคางแล้วยึดไปสู่ตำแหน่งใหม่ โดยทั่วไปศัลยแพทย์อาจปรับเปลี่ยนขากรรไกรและปรับโครงสร้างของคางร่วมด้วย
การดูแลตัวเองหลังตัดกราม
- ในช่วง 2 -3 วันแรกให้ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม จากนั้นประคบต่อด้วยน้ำอุ่นประมาณ 7-14 วัน
- ในช่วง 3 – 4 วัน อาจมีอาการปวดบริเวณแผลผ่าตัดในปาก รวมถึงบริเวณกระดูกที่ทำการผ่าตัด บางรายอาจมีอาการหูอื้อร่วมด้วย เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนระหว่างการเหลา หรือตัดกระดูกกราม แต่จะเป็นอยู่ชั่วคราว และหายได้เองในช่วง 7 – 14 วัน
- รับประทานอาหารอ่อน งดอาหารแข็งหรืออาหารที่ต้องใช้แรงบดเคี้ยว อาหารรสจัด ของหมักดอง หรือแอลกอฮอล์ ในช่วง 1 เดือนแรก
- งดสูบบุหรี่ ในช่วง 1 เดือนหลังการผ่าตัด เพราะอาจทำให้แผลหายช้า
- รักษาความสะอาดของช่องปากด้วยการแปรงฟัน โดยใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม เพื่อขจัดเศษอาหารตกค้างซึ่งจะทำให้เกิดการอักเสบได้ และบ้วนปากด้วยน้ำยาล้างปากบ่อยๆหลังการรับประทานอาหาร
- ขยับอ้าปากบ่อยๆหรือทุกครั้งที่นึกได้เพื่อขยับข้อต่อขากรรไกรไม่ให้ติดหรือฝืด ในช่วงแรกที่มีอาการบวมอาจจะยังอ้าปากไม่ได้มาก ถือเป็นเรื่องปกติ เมื่ออาการบวม ทุเลาลงก็จะอ้าปากได้มากขึ้นตามลำดับ
- หลังผ่าตัดอาจมีอาการเขียวช้ำเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ ให้ประคบด้วยน้ำอุ่นบริเวณรอยเขียวช้ำ ประมาณ 2 สัปดาห์ รอยเขียวช้ำก็จะจางหายไป
ภาวะแทรกซ้อน
- การเสียเลือดเป็นจำนวนมาก เป็นภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัด
- การติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด
- ภาวะเลือดออกมากกว่าปกติหลังผ่าตัด
- เส้นประสาทได้รับความเสียหาย อาจส่งผลให้รู้สึกชาชั่วระยะหนึ่งแล้วค่อยๆดีขึ้นเป็นลำดับ หรือเป็นอาการชาอย่างยาวนาน
- เกิดการคืนตัวของกระดูก ฟันกลับไปสบผิดปกติเหมือนเดิม
- เกิดความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร
- อาการอาเจียนจากผลข้างเคียงของยาสลบ สามารถรักษาและบรรเทาด้วยการฉีดยาตามอาการ
- ผลข้างเคียงด้านจิตใจอย่างภาวะซึมเศร้าที่มักเกิดขึ้นฉับพลันหลังการผ่าตัด มักรู้สึกดีขึ้นภายในไม่กี่วัน
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีความรู้เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมตัดกรามเพิ่มมากขึ้น แต่หากคิดจะทำจริงๆควรเลือกปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวาญและคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง