CHIN SURGERY ศัลยกรรมเสริมคาง
ศัลยกรรมเสริมคาง
คางเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของใบหน้า ตามตำราโหงวเฮ้งทำนายทายทักว่า ชีวิตบั้นปลายจะสุขสบายหรือลำบาก อ่านได้จากคางเรานี่เอง คางสั้นเกินไปมักมีชีวิตบั้นปลายที่ลำบาก จริงหรือเท็จคงต้องศึกษาจากคนใกล้ชิดกันเอง บางคนก็มีคางก็ยื่นยาวเกินความพอดี ไม่สมส่วน ทำให้ใบหน้าเสียสมดุล
วัสดุที่ใช้ในการเสริมคาง
ศัลยกรรมเสริมคางด้วยซิลิโคน : ซิลิโคนสำหรับการนำมาเสริมนั้น เลือกใช้ซิลิโคนนิ่มพิเศษ มีความยืดหยุ่นสูง และผิวสัมผัสดูเป็นธรรมชาติเหมือนกับคางของมนุษย์จริงๆ ซิลิโคนได้ถูกมีการนำมาใช้ในวงการศัลยกรรมตกแต่งมาช้านาน ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความทนทาน ปลอดภัยสูง และไม่มีผลข้างเคียงอาการแพ้ใดๆ
วิธีการผ่าตัดเสริมคาง
วิธีที่ 1. การผ่าตัดลงด้านนอกเป็นการผ่าตัดบริเวณใต้คาง แต่ไม่ค่อยนิยม เนื่องจากเห็นแผลด้านอก แต่ก็มีข้อดี คือ โอกาสติดเชื้อจะน้อยกว่าการผ่าตัดด้านใน
วิธีที่ 2. การผ่าตัดลงในปากเป็นการผ่าตัดเปิดแผลด้านในปาก บริเวณซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง ความยาวของแผลประมาณ 2 ซม. หลังจากนั้น ก็จะแยกเยื่อหุ้มกระดูกคาง
ตรงขอบล่างขึ้นมา แล้วจึงจะวางแท่งซิลิโคน เข้าไปให้พอดีตรงตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากนั้นก็เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย ใช้เวลาทั้งหมด ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็สามารถกลับบ้านได้เลย
Chin implant (extraoral technitque)
ใคร? ที่ควรศัลยกรรมเสริมคาง
คนที่มีอาการสบฟันผิดปกติ คางยื่นออกมาข้างหน้า
คนที่คางเล็กมากเกินไป คางหดสั้นเข้าไปด้านใน
คนที่โครงหน้าไม่ได้รูป กรามและคางไม่สมส่วน
คนที่ใบหน้าสั้น สัดส่วนคางไม่เข้ารูปกับสัดส่วนใบหน้าส่วนอื่นๆ
วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมคาง
1. ในช่วง 3 วันหลังผ่าตัด แนะนำให้ประคบด้วยน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บปวด และป้องกันการบวมโดยวางถุงประคบรอบๆ คาง
2. แนะนำในช่วง 1 อาทิตย์แรก ให้เข้ามาที่คลินิกเพื่อทำการล้างทำความสะอาดแผลทุกวัน ป้องกันการสะสมของเศษอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการติดเชื่อ และอักเสบ
3. ในช่วงวันที่ 4 – 6 หลังผ่าตัด แนะนำให้ประคบร้อนด้วยไข่ต้ม เพื่อลดลดอาการบวมช้ำ บริเวณรอบๆ คาง
4. นอนศีรษะสูง และห้ามนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพราะเนื่องจากอาจไปกดทับบริเวณคางที่ยังอักเสบอยู่
5. รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบ อย่างเคร่งครัด
6. ขณะรับประทานอาหารในช่วง 1 อาทิตย์แรก แนะนำให้ทานโดยหลอดดูดอาหาร เพื่อป้องกันเศษอาหารตกลงไปในบริเวณแผล
7. มาตามนัดที่ได้รับจากทางคลินิก ห้ามแกะพลาสเตอร์ หรือตัดไหมออกเองก่อนกำหนด
8. ทำความสะอาดใบหน้าด้วยผ้าเปียกเช็ด หรือทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวแทนการล้างหน้า
9. อาการบวมเขียวช้ำอาจเกิดขึ้นได้หลังผ่าตัด โดยเฉพาะในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก และจะดีขึ้นเรื่อยๆ ใน 3-4 เดือนกว่า เนื้อเยื่อจะกลับมาใกล้เคียงปกติ บางรายอาจต้องใช้เวลา นาน 6 เดือน ถึง 1 ปี
10. หลีกเลี่ยงการก้มหน้ามากๆ เช่น นั่งอ่านหนังสือ เล่นคอมพิวเตอร์ ยกของหนัก ส่ายหน้าหรือเอียงหน้าแรงๆ โดยเฉพาะ 2 อาทิตย์แรก
11. หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และสูบบุหรี่ประมาณ 3 เดือน
12. หลีกเลี่ยงการทานอาหารทะเล ของหมัก ของดอง อาหารรสจัด และอาหารที่คบเคี้ยวยาก ในช่วง 1 เดือนแรก
13. สามารถออกกำลังกายหนักๆ เช่น วิ่ง หรือว่ายน้ำ หลังจากผ่าตัด ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป
14. หากมีความผิดปกติอื่นๆ รีบเข้ามามาปรึกษาที่คลินิกได้ทันที